กทช. เปลี่ยนเป็น กสทช. แล้ว มีผลวันนี้

เชษ

ประกาศราชกิจจานุเบกษา เปลี่ยนสำนักงาน กทช. เป็น สำนักงาน กสทช. มีผลวันที่ 20 ธ.ค. 53 รอสรรหา กสทช. ใหม่ ปฏิบัติหน้าที่ภายใน 180 วัน อนุมัติคลื่นความถี่ร่วมกันโดยเฉพาะออกใบอนุญาต 3จี บนคลื่น 2.1 กิกะเฮิร์ตซ...

วันที่ 20 ธ.ค. สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สำนักงาน กสทช.) ประกาศเรื่อง การเปลี่ยนแปลงสำนักงานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กทช. เป็นสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช.

ทั้งนี้ ด้วยพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุ กระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ พ.ศ.2553 ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ฉบับกฤษฎีกา เล่ม 127 ตอน 78 ก วันที่ 19 ธันวาคม 2553 โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 20 ธันวาคม 2553 ซึ่งเป็นวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

โดย ความในมาตรา 56 มาตรา 60 และมาตรา 89 แห่งพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุ กระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ พ.ศ.2553 ได้บัญญัติให้มีสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สำนักงาน กสทช.) โดยมีเลขาธิการ กสทช. รับผิดชอบงานของสำนักงาน กสทช. และให้โอนบรรดากิจการ ทรัพย์สิน สิทธิ หน้าที่ หนี้ พนักงานและลูกจ้าง และเงินงบประมาณ ของสำนักงานกทช. ที่มีอยู่ไปเป็นของ สำนักงาน กสทช.

ด้าน นายพนา ทองมีอาคม อดีต กรรมการกทช. ซึ่งเป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่แทน กสทช. กล่าวว่า วันนี้ตามประกาศได้เปลี่ยนให้ กทช. ทำหน้าที่แทน กสทช. โดยโอนย้ายทรัพย์สินและพนักงานของ กทช. มาอยู่ใน กสทช. ซึ่งประกาศต่างๆ ที่กทช.เคยออกไป เช่น หลักเกณฑ์วิทยุชุมชน ยังคงเดินหน้าต่อได้ไม่ต้องยกเลิก โดยคาดการณ์ว่าภายใน 1-2 วันนี้ กทช.จะประชุมเร่งด่วน เพื่อเตรียมตัวทำหน้าที่แทน กสทช. อย่างไรก็ตาม สิ่งที่จะต้องทำวันนี้ คือ การเปลี่ยนป้ายชื่อ สำนักงาน กทช. เป็นสำนักงาน กสทช.

ขณะที่ พ.อ.นที ศุกลรัตน์ อดีตกรรมการ กทช. ซึ่งเป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่แทน กสทช. กล่าวว่า วันนี้การทำหน้าที่ของอดีต กทช.ทั้ง 7 ราย ต้องทำด้วยความระมัดระวัง ซึ่งตามมารยาทแล้วยังไม่ควรออกใบอนุญาตใหม่ในช่วงนี้ แต่ใบอนุญาต และประกาศที่ กทช.ทั้ง 7 ราย ออกไปแล้ว ยังคงมีผลบังคับใช้เหมือนเดิม ซึ่งตามกฎหมายองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่จะสรรหา กสทช. ใหม่ เพื่อมาปฏิบัติหน้าที่ภายใน 6 เดือน หรือ 180 วัน เพื่อทำหน้าที่พิจารณาอนุมัติคลื่นความถี่ร่วมกัน โดยเฉพาะการให้ใบอนุญาตให้บริการ หรือ ไลเซ่นส์ 3 จี บนคลื่น 2.1 กิกะเฮิรร์ตซ

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา รัฐบาลได้เร่งออกกฎหมาย กสทช. เพื่อให้ประเทศไทยใช้เทคโนโลยี 3 จี หลังจากการประมูลไลเซ่นส์ 3 จี ของ กทช. ถูกศาลปกครองสูงสุดสั่งระงับการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ เพื่อการประกอบกิจการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ไอเอ็มที ย่าน 2.1 กิกะเฮิร์ตซ และการดำเนินต่อไป ตามประกาศของกทช. เรื่องหลักเกณฑ์ และวิธีการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่เพื่อการประกอบกิจการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ไอเอ็มที ย่าน 2.1 กิกะเฮิร์ตซ จนกว่าคดีจะถึงที่สุด หรือศาลมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น ตั้งแต่วันที่ 23 ก.ย.2553 เป็นต้นไป ส่งผลให้การประมูล 3 จี ของ กทช.ที่เหลืออีก 2 วันจะเริ่มประมูลนั้นต้องหยุดชะงักลงทันที

สำหรับรายชื่อ คณะกรรมการ กทช. 7 คน ประกอบด้วย นายประสิทธิ์ ประพิณมงคลการ ประธานกทช. นายสุชาติ สุชาติเวชภูมิ นายสุธรรม อยู่ในธรรม พ.อ.นที ศุกลรัตน์ นายสุรนันท์ วงศ์วิทยกำจร นายพนา ทองมีอาคม และนายบัณฑูร สุภัควณิช

ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์
http://www.thairath.co.th/content/tech/135509