Community แห่งนี้จะใช้งานได้ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2566
 
สยามโฟน ดอท คอม : ชุมชนผู้ใช้มือถือ
 โทรคมนาคม: อึ้ง! คนไทยเสียโอกาส 4.8 แสนล.จากดอง 3 จีเมื่อ 3ปีก่อน
 
หน้าแรกคอมมิวนิตี้ » Webboard - กระดานสนทนา มือถือ แท็บเล็ต
ตอบ: 0 / เข้าชม: 2308
ตั้งกระทู้ใหม่ ตอบหัวข้อนี้
Translate this topic to English แสดงความเห็นเฉพาะสมาชิก ทวีตไปบนทวิตเตอร์ แชร์หน้านี้ไปบนเฟสบุคดูกระทู้ก่อนหน้า :: ดูกระทู้ถัดไป
Author
Message
PapaDe'LaKing
Mobile Member
Mobile Member
Year's Star



สมัครเมื่อ: 01 Nov 2012
จังหวัด: กรุงเทพฯ
รายละเอียดสมาชิก - View user's profile
หัวข้อ : โทรคมนาคม: อึ้ง! คนไทยเสียโอกาส 4.8 แสนล.จากดอง 3 จีเมื่อ 3ปีก่อน
วันที่โพสท์ : 15 Dec 2012 23:39  
ตอบโดยอ้างถึง  

สถาบันอนาคตฯแจงผลเสียดอง 3 จีเมื่อ 3 ปีก่อน

เปิดผลวิจัย ?สถาบันอนาคตไทยศึกษา? ชี้ประเทศไทยไม่ได้ทำ 3G เมื่อ 3 ปีก่อน ก่อให้เกิดค่าเสียโอกาสแฝงทางเศรษฐกิจมหาศาลกว่า 4.8 แสนล้านบาท นอกจากความเสียหายที่มองเห็น 1.5 หมื่นล้านบาทต่อปี ภาคธุรกิจเสียหายมากสุด 9.6 หมื่นล้าน ตามมาด้วยประชาชน 6.2 หมื่นล้าน

นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ประธานคณะกรรมการบริหาร สถาบันอนาคตไทยศึกษา กล่าวว่า สถาบันได้เปิดตัวบทวิเคราะห์ฉบับใหม่ ?Opportunity Cost (ค่าเสียโอกาส)? นำเสนอ เรื่องค่าเสียโอกาสของโครงการ 3G ที่ประเทศไทยไม่ตัดสินใจเดินหน้าลงทุนเมื่อ 3 ปีก่อนว่า ?สังคมไทยเป็นสังคมแห่งการวิจารณ์ การวิจารณ์ส่วนใหญ่มักมาจากสิ่งที่คนมองเห็นและพูดถึง แต่ไม่ได้เป็นผู้ทำ บ่อยครั้งที่การวิจารณ์ทำให้คนไม่กล้าตัดสินใจ ไม่กล้าเดินหน้าที่จะทำในสิ่งที่คิดและเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ เราเรียกต้นทุนของการไม่กล้าเดินหน้านี้ว่า ?ค่าเสียโอกาส (Opportunity Cost)? ซึ่งในกรณีของโครงการขนาดใหญ่ของประเทศไทย ต้นทุนประเภทนี้อาจก่อความเสียหายให้แก่ประเทศชาติได้อย่างมหาศาลไม่น้อยไปกว่าต้นทุนที่เราเห็นกันได้อย่างชัดแจ้งเลยทีเดียว

สำหรับงานวิเคราะห์ฉบับนี้ ทางสถาบันฯ ได้จัดทำขึ้นเพื่อชี้ให้เห็นถึงต้นทุนค่าเสียโอกาสที่เกิดขึ้นกับภาคประชาชน ภาคธุรกิจ และภาครัฐจากการไม่ตัดสินใจทำเรื่องใดเรื่องหนึ่งของประเทศไทย โดยจะนำเสนอตัวเลขของต้นทุนนี้ในรูปแบบที่วัดกันได้อย่างเป็นรูปธรรม เพื่อสร้างพื้นฐานและยกระดับการวิจารณ์ของสังคมให้อยู่บนข้อมูลที่ครบถ้วนและทราบโดยทั่วกัน

นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้จัดการสถาบันอนาคตไทยศึกษา เปิดเผยว่า ค่าเสียโอกาสที่เกิดขึ้นจากโครงการ 3G นั้น จะนับจากระยะเวลากว่า 3 ปี ตั้งแต่เดือน ก.ย.2552 ที่ร่างเงื่อนไขการประมูล 3G บนคลื่นความถี่ย่าน 2.1 GHZ ของกทช. ได้ถูกคัดค้านมิให้มีการเปิดประมูล จนกระทั่งมีการประมูลจริงเมื่อวันที่ 16 ต.ค.2555 ที่ผ่านมา ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลาดังกล่าวจนจบสิ้นการประมูล ได้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงความชอบธรรมในเชิงกฎหมาย ตลอดจนผลได้ผลเสียจากการประมูล ซึ่งคิดเป็นรายได้ที่มองเห็นให้แก่ประเทศไทยมูลค่าเพียงปีละ 15,000 ล้านบาทเท่านั้น แต่การวิจารณ์เหล่านั้นไม่ได้กล่าวถึงต้นทุนค่าเสีย

โอกาสของประเทศไทยที่มีมูลค่าไม่น้อยกว่า 480,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นมูลค่ากว่าปีละ 160,000 ล้านบาท ซึ่งขาดหายไปจากการที่เราไม่ตัดสินใจเดินหน้าลงทุนในโครงการนี้ตั้งแต่ 3 ปีที่ผ่านมา แบ่งเป็นค่าเสียโอกาสของภาครัฐปีละ 2,000 ล้านบาท ภาคธุรกิจปีละ 96,000 ล้านบาท และภาคประชาชนอีกปีละ 62,000 ล้านบาท

?การลงทุนในโครงการ 3G อาจทำให้รัฐสูญเสียส่วนแบ่งรายได้บนคลื่นความถี่เก่า แต่เมื่อคิดรวมรายได้จากค่าสัมปทานคลื่นความถี่ใหม่ และรายได้จากภาษีทางตรงเฉพาะภาษีเงินได้นิติบุคคลและภาษีทางอ้อมเฉพาะภาษีมูลค่าเพิ่มซึ่งรัฐจะจัดเก็บเพิ่มได้จากภาคธุรกิจที่ได้รับอานิสงส์จากการมี 3G คาดว่ารัฐจะได้รับผลประโยชน์สุทธิเพิ่มขึ้นอีกไม่น้อยกว่าปีละ 2,000 ล้านบาท?

ในขณะเดียวกัน ยังเอื้อประโยชน์ให้แก่ภาคเอกชนโดยเฉพาะผู้ประกอบการโทรศัพท์มือถือในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่อยอดที่จะช่วยสร้างรายได้เพิ่มขึ้นให้แก่ธุรกิจไม่น้อยกว่าปีละ 33,000 ล้านบาท อีกทั้งยังส่งผลกระทบเชิงบวกต่อเศรษฐกิจประเทศไทยโดยรวม ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมต้นน้ำ ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมพื้นฐานเกี่ยวเนื่องกับการลงทุนในโครงการ 3G และอุตสาหกรรมปลายน้ำ ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่นำเอาผลประโยชน์จาก 3G ไปเป็นพื้นฐานต่อในการผลิต คิดเป็นมูลค่ารวมแล้วกว่าปีละ 63,000 ล้านบาท

ท้ายที่สุด ภาคประชาชนซึ่งจะได้รับผลประโยชน์จาก 3G ถึงกว่าปีละ 62,000 ล้านบาท จากความสะดวก รวดเร็ว และประหยัดเวลาในการเข้าชมเว็บไซต์บนโทรศัพท์มือถือ ซึ่งเร็วกว่าเทคโนโลยีมือถือในระบบ EDGE ถึง 30-35 เท่า และช่วยลดค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายเพิ่มจากปัญหาสายหลุดขณะสนทนาเมื่อใช้คลื่นความถี่เดิม ทั้งนี้ ยังไม่รวมถึงต้นทุนความสะดวกสบายอื่นๆ อาทิ การทำธุรกรรมทางการเงินผ่านธนาคารทางมือถือ (mobile banking) และการใช้บริการโทรศัพท์ทางไกลต่างประเทศฟรีผ่านระบบ VOIP เป็นต้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้การเปิดประมูลใบอนุญาต 3G บนคลื่น 2.1 GHz ได้เดินหน้าเข้าสู่กระบวนการเริ่มต้นติดตั้งโครงข่ายแล้ว หลังผู้ให้บริการได้เข้ารับใบอนุญาต 3G จาก กสทช.ไปเมื่อวันที่ 11 ธ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้ผู้ให้บริการสามารถสั่งซื้ออุปกรณ์โครงข่ายเพื่อติดตั้งให้ครบตามกำหนดคือครอบคลุม 50% ของพื้นที่ภายใน 2 ปีจากนี้ โดยวงเงินในการลงทุนภายใต้การติดตั้งโครงข่ายทั้งหมดของผู้ให้บริการ 3 รายภายใน 3 ปีจากนี้ รวมกันคาดว่าจะเกิน 100,000 ล้านบาทอย่างแน่นอน ไม่รวมเงินจากการประมูล ซึ่งต้องจ่ายเป็นรายได้เข้ารัฐทั้งสิ้นอีก 41,625 ล้านบาท.

http://www.thairath.co.th/content/eco/313429
แสดงผู้ตอบย้อนหลัง:   
หน้าแรกคอมมิวนิตี้ » Webboard - กระดานสนทนา มือถือ แท็บเล็ต
ตั้งกระทู้ใหม่  ตอบหัวข้อนี้
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1   

 
ไปยังหัวข้อ: