Community แห่งนี้จะใช้งานได้ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2566
 
สยามโฟน ดอท คอม : ชุมชนผู้ใช้มือถือ
 รีวิว LG Arena เปรียบเทียบ iPhone แบบหมัดต่อหมัด
 
หน้าแรกคอมมิวนิตี้ » Webboard - กระดานสนทนา มือถือ แท็บเล็ต
ตอบ: 1 / เข้าชม: 5559
ตั้งกระทู้ใหม่ ตอบหัวข้อนี้
Translate this topic to English แสดงความเห็นเฉพาะสมาชิก ทวีตไปบนทวิตเตอร์ แชร์หน้านี้ไปบนเฟสบุคดูกระทู้ก่อนหน้า :: ดูกระทู้ถัดไป
Author
Message
Runjako
SP Moderator
SP Moderator
Year's Star



สมัครเมื่อ: 04 Apr 2004
จังหวัด: เมืองหลวงของประเทศไทย
รายละเอียดสมาชิก - View user's profile
หัวข้อ : รีวิว LG Arena เปรียบเทียบ iPhone แบบหมัดต่อหมัด
วันที่โพสท์ : 01 May 2009 16:17  
ตอบโดยอ้างถึง  

รีวิว LG Arena เปรียบเทียบ iPhone แบบหมัดต่อหมัด

บทความโดย
mLIFE
ที่มา
http://www.pantip.com/cafe/mbk/topic/T7804740/T7804740.html

พอดีผมได้ LG Arena มาลองเทส จริงๆ ได้มาตั้งแต่เดือนก่อนนู้น ซึ่งทาง LG ไทยยังไม่อนุญาตให้เปิดเผยข้อมูลแล้วล่ะครับ แต่ได้มาอีกรอบ และเห็นว่ากำลังเป็นกระแสอยู่ในช่วงนี้

ตอนนี้ผมใช้ iPhone 3G อยู่เลยอยากเปรียบเทียบข้อมูลระหว่างโทรศัพท์มือถือของทั้งสองให้ทราบกัน เผื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจ แต่ผมจะพูดถึง LG Arena เป็นหลัก โดยอ้างถึง iPhone ด้วย



จอแสดงผลของทั้ง LG Arena และ iPhone Classic, iPhone 3G ใช้จอสัมผัสแบบ Multi-Touch เหมือนกัน แตะสั่งงานได้เฉพาะปลายนิ้ว สไตลัสเก็บเข้ากรุได้เลย

ความละเอียดของจอ
LG Arena : 480 x 800 พิกเซล (3 นิ้ว)
iPhone 3G : 320 x 480 พิกเซล (3.5 นิ้ว)

หน้าจอของ LG ความละเอียดมากกว่า แต่จอเล็กกว่า 0.5 นิ้ว แต่ iPhone หน้าจอใหญ่กว่า แต่ความละเอียดน้อยกว่า

ส่วนเรื่องสีนั้นผมมองว่าจะสองแสนสี หรือสิบหกล้านสีดูแล้วก็ไม่ต่างกัน ดูหน้าจอทั้งสองเทียบแล้วก็พอๆ กันครับ

Multi-Touch ของ LG Arena ก็ใช้ได้ทั้งขยายภาพ ขยายหน้าเวบเพจ แต่ต้องยอมรับว่า iPhone ยังทำได้ดีกว่าพอสมควร งานนี้ LG ต้องทำการบ้านเพิ่มอีกหน่อย



ในเรื่องของอินเตอร์เฟสนั้น แน่นอนว่า iPhone เป็นผู้จุดประกายระบบทรานสิชั่น (Transition) หรือการเปลี่ยนหน้าจอเมนูให้วู๊บ ว๊าบไปมา ดูแล้วตื่นตาตื่นใจตอนเล่นครั้งแรก

แต่พอมาถึง LG ก็ถือว่าไม่ทำให้ผิดหวังเหมือนกัน กับ 3D S-Class User Interface ระบบทรานสิชั่นเปลี่ยนหน้าจอได้เนียนตา ที่น่าสนใจคือ Home screen

ของ LG มีให้เลือกใช้ 4 หน้า คือ
1. Widget
2. Contacts
3. Shotcut
4. Multimedia



ที่ชอบที่สุดคือตรง Multimedia ที่เลือกดูรูปได้โดยตรง และเปิดเครื่องเล่นเพลงได้
ถ้าหากไฟล์เพลงมีรูป เครื่องเล่นเพลงจะทำเป็นเหมือนแผ่นซีดี เวลาเปิดเพลงแผ่นนี้ก็จะหมุนตามไปด้วย ดูแล้วเหมือนตู้เพลง



เรื่องของกล้อง iPhone มีมาให้ 2 ล้านพิกเซล เป็นแบบกดถ่ายแหลก ปรับแต่งอะไรไม่ได้
แต่ LG Arena มีมาให้ 5 ล้านพิกเซล เลนส์รับภาพ Schneider Kreuznach ออโต้โฟกัส

ลูกเล่นการถ่ายภาพเด่นๆ ก็มี
1. Face Tracking ระบบโฟกัสใบหน้าอัตโนมัติ
2. ปรับค่า ISO ได้ 100-800
3. ระบบป้องกันภาพสั่นไหว (Image stabilization)
4. บันทึกพิกัดลงบนข้อมูลภาพ (Geo-Tagging) แต่ iPhone ก็มีเหมือนกัน
5. ไฟแฟลชแบบ LED

ส่วนการถ่ายวิดีโอก็ถ่ายได้ที่ความละเอียด 720 x480 พิกเซล 30 เฟรมต่อวินาที หรือในแบบ Wide screen ในขณะที่ iPhone ต้องรอ Firmware 3.0 จึงจะถ่ายได้



แก้ไขครั้งล่าสุดโดย Runjako เมื่อวันที่ 01 May 2009 17:06; ทั้งหมด 1 ครั้ง
Runjako
SP Moderator
SP Moderator
Year's Star



สมัครเมื่อ: 04 Apr 2004
จังหวัด: เมืองหลวงของประเทศไทย
รายละเอียดสมาชิก - View user's profile
หัวข้อ :
วันที่โพสท์ : 01 May 2009 16:40  
ตอบโดยอ้างถึง  

ฟังก์ชั่น FM Transmitter ที่ใช้กับเครื่องเล่นเพลง MP3 ก็ใช้สำหรับกระจายเสียงจากเครื่องเล่นเพลงผ่านความถี่วิทยุ FM

ซึ่งใน iPhone ไม่มีมาให้แน่ๆ วิธีใช้ก็แค่ตั้งคลื่นความถี่ที่จะกระจายเสียง จากนั้นจูนคลื่นเครื่องเสียงบ้าน เครื่องเสียงรถยนต์ให้ตรงกันก็ฟังได้แล้ว ไม่ต้องเสียบสายสัญญาณ



วิทยุ FM ก็ไม่มีใน iPhone เช่นกัน



การเชื่อมต่อทั้ง LG Arena และ iPhone ก็ถือว่าสูสี มีมาให้ครบทั้งบลูทูธ, Wi-Fi, เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตผ่าน 3G



เบราเซอร์ต้องยอมรับเลยว่า Safari ของ iPhone มีประสิทธิภาพดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด ถ้าเป็นเวบเพจที่มีข้อมูลเยอะ LG Arena จะค่อนข้างกระตุก ไม่ค่อยลื่นเท่าไหร่



การป้อนข้อความภาษาไทย ถ้าหากเป็น iPhone ต้องซื้อคีย์บอร์ดไทยเพิ่มใน App store หรือไม่ก็ Jailbreak เพื่อลงแบบไม่เสียตังค์ ส่วน LG มีมาให้ ถ้าอยู่หน้าจอพิมพ์ข้อความก็วางเครื่องในแนวนอน คีย์บอร์ดก็จะโผล่ออกมาให้เห็น

การใช้งาน GPS ทั้ง iPhone และ LG Arena ต้องใช้ผ่าน Google maps เท่านั้น อันนี้ถือว่าเสมอกัน ไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบ



ส่วนเรื่องหน่วยความจำนั้น LG Arena มีมาให้ในตัว 8 GB แต่ iPhone มีให้เลือกทั้ง 8 GB และ 16 GB

แต่เดี๋ยวก่อน LG Arena ยังเพิ่มหน่วยความจำ microSD ได้สูงสุดถึง 32 GB ไม่รู้ว่าบ้านเรามีขายหรือยัง แต่ตามสเปกว่าไว้อย่างนั้น ส่วน iPhone เพิ่มไม่ได้ตามระเบียบ



ท้ายที่สุดที่จะไม่พูดถึงไม่ได้คือการติดตั้งโปรแกรมเสริม
iPhone นั้นมีโปรแกรมมาให้มากมายมหาศาล (ถ้าจะใช้งานให้สนุกจริงๆ คงต้อง Jailbreak)
ส่วน LG Arena ติดตั้งได้เฉพาะโปรแกรมจาวา



ส่วนเรื่องราคานั้นคงไม่ต้องพูดถึง เพราะ LG Arena ถูกกว่าเกือบหมื่น ถ้าเทียบกับรุ่น iPhone 3G 8 GB

ตอนนี้ยังไม่มีขายนะครับ แต่เปิดให้จองในเวบแล้ว ส่วนเวบไหนนั้นคงต้องไปหาเอาเอง เดี๋ยวหาว่าโฆษณา ตอนนี้นึกเปรียบเทียบได้แค่นี้ ถ้านึกอะไรออกเดี๋ยวมาต่ออีกที หรือใครมีข้อมูลก็มาแชร์กันได้ครับ

จริงๆ ผมว่า LG Arena จะเหมาะกับความบันเทิงมากกว่า ทั้งเครื่องเล่นเพลง MP3, FM Transmitter, FM Radio, กล้อง 5 ล้านพิกเซล

อินเตอร์เฟสแบบ S-Class ทำให้มันดูน่าใช้งานมากขึ้น รวมไปถึงวัสดุของตัวเครื่องด้วย แต่ยังด้อยเรื่องการใช้งานอินตอร์เน็ตบนหน้าจอ

ราคา 17,900 บาท บางคนอาจจะบอกว่าสูงไป แต่ผมว่าถ้าชอบจริงๆ ใช้สิทธิจองดีกว่า ของแถมมีให้คุ้มกว่า ได้ยินมาว่าได้ microSD 4GB, ลำโพงพกพา ส่วน Stand กะ TV-Out cable อาจจะไม่ค่อยจำเป็นเท่าไหร่ แต่มีไว้ก็ดีครับ เผื่อใช้งาน

บทความโดย
mLIFE

ที่มา
http://www.pantip.com/cafe/mbk/topic/T7804740/T7804740.html
แสดงผู้ตอบย้อนหลัง:   
หน้าแรกคอมมิวนิตี้ » Webboard - กระดานสนทนา มือถือ แท็บเล็ต
ตั้งกระทู้ใหม่  ตอบหัวข้อนี้
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1   

 
ไปยังหัวข้อ: