อยากทราบข้อมูลเกี่ยวกับหน้าจอโทรศัพท์ต่าง ๆ

stydent · ผู้มาเยือน

อยากรู้ว่า พวกหน้าจอ LCD,TFT,TFD,STN...........อะไรเนี่ย ต่างกันตรงไหนอะไรดีกว่ากัน และยังมีอะไรดีกว่านี้อีกมั้ย
ใครรู้ช่วยตอบอย่างละเอียดด้วย

เท่งทึง · หัวข้อ : วันที่โพสท์ : 29 Jan 2004 14:48

รายละเอียดอ้างอิงจากทางเว็บ http://www.mobikiss.com/talk/1_20/ คับ

ข้อมูลทั้งหมดแปล และเรียบเรียงจากบทความต้นฉบับ
เขียนโดย Aloysius Choong จาก www.asia.cnet.com
และจาก www.samsungmobile.com เขียนโดย Young-Cheol Park

1. จอ LCD ถูกค้นพบขึ้นในปี 1888 โดยนักพฤกษศาสตร์ชาวออสเตรีย ซึ่งค้นพบการเปลี่ยนแปลงของแก้วคริสตัลในรูปแบบของของเหลว ที่เกิดจากการการกระทำของไฟกระแสตรงก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของรูปทรง
และต่อมาได้มีการพัฒนาให้เกิดเป็นจอขาวดำ โดยอาศัยหลักการในการบังคับให้หยดของคริสตัล (liquid crystals) ซึ่งใช้แผ่นแก้ว หรือ แผ่นกรอง 2 ชิ้นในการกักของเหลวเหล่านั้นไว้ และบังคับให้ของเหลวนี้เหล่านี้ไปปิดรูช่องแสงที่ส่องขึ้นมาจากทางด้านหลังของจอทำให้เกิดเป็นตัวหนังสือ, ตัวเลขต่าง ๆ ตามต้องการ
ซึ่งบนหน้าจอโทรศัพท์จะประกอบไปด้วยรูเล็ก ๆ เหล่านี้เป็นจำนวนนับร้อย นับพันรูตามแต่ขนาดของหน้าจอ ซึ่งจุดเด่นของจอขาวดำแบบ LCD นี้ก็คือใช้พลังงานน้อย แต่ให้การแสดงผลที่ชัดเจน

ตัวอย่างของจอ monochrome LCD เช่น โนเกีย 8250

เท่งทึง · หัวข้อ : วันที่โพสท์ : 29 Jan 2004 15:03

2. Passive-matrix color displays , STN (Super Twisted Nematic)
หน้าจอประเภทถัดมา คือ จอสีแบบ Passive-matrix color displays ซึ่งอาศัยหลักการในการบังคับสายไฟที่พาดกันอยู่ทั้งในแนวตั้ง และแนวนอน ทำให้เกิดการปล่อยกระแสไฟไปยังช่องแสงต่าง ๆ ตาที่กำหนดไว้ (pixels)
แม้ว่าจอแบบ Passive-matrix จะมีค่าใช้จ่ายในการผลิตที่ค่อนข้างถูก แต่ข้อเสียของมันก็คือการตอบสนองต่อการทำงานค่อนข้างช้า ทำให้มีปัญหาในการดูภาพที่เคลื่อนไหวเร็ว ๆ หรือแม้แต่การกดเมนูอย่างรวดเร็ว และยังให้ความสว่างน้อยกว่าเมื่อเทียบกับจอแบบ active-matrix

จอสีที่ใช้หลักการทำงานแบบ Passive-matrix นี้ได้แก่ จอแบบ STN (Super Twisted Nematic) ซึ่งสามารถแสดงผลได้ 256, 4096 และ 65,000 สี ซึ่งจอแบบ STN มักจะพบได้ในโทรศัพท์จอสีราคาถูก
ตัวอย่างของโทรศัพท์ที่ใช้จอ STN: Nokia 7210, Motorola C350, and the Sony Ericsson T310

เท่งทึง · หัวข้อ : วันที่โพสท์ : 29 Jan 2004 15:07

3. Active-matrix color displays, TFT (Thin Film Transistor)
หน้าจอแบบ Active-matrix color displays นี่อาศัยหลักการทำงานของ TFT (thin film transistor) คือในแต่ละช่องแสดงผล (pixel) จะมีตัวส่งสัญญาณกำกับอยู่ในทุก ๆ ช่อง มีการตอบสนองต่อการส่งสัญญาณที่ค่อนข้างไว ซึ่งทำให้การแสดงผลมีความคมชัด และสว่างกว่าจอแบบ Passive-matrix ซึ่งหน้าจอแบบ TFT นี้ ปกติจะพบได้ในอุปกรณ์ราคาแพง เช่น คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค หรือกล้องดิจิตัล
จอ TFT จะใช้พลังงานในการทำงานค่อนข้างมาก ซึ่งส่งผลทำให้จำนวนครั้งในการชาร์จ และเปลี่ยนแบตเตอรี่สูงตามไปด้วย จอแบบ TFT นี้สามารถแสดงผลได้ 4,096, 65,000 และ 260,000 สี

ตัวอย่างของโทรศัพท์ที่ใช้จอ TFT: Samsung SGH-S500, Panasonic GD88, Nokia 7650

เท่งทึง · หัวข้อ : วันที่โพสท์ : 29 Jan 2004 15:11

4. Samsung's UFB
จอ UFB ได้ถูกเปิดเผยขึ้นเป็นครั้งแรกในเดือนมีนาคม 2002 ซึ่งจอ UFB นี้เป็นผลงานการพัฒนาจาก Samsung SDI display unit โดยย่อมาจากคำว่า Ultra Fine & Bright ซึ่ง UFB ได้ถูกอวดสรรพคุณไว้ว่าเป็นจอสีที่แสดงสีได้สมจริง มีการตอบสนองต่อการประมวลผลได้สูงกว่าจอแบบ active-matrix แต่ใช้พลังงานพอ ๆ กับจอแบบ passive-matrix ทางซัมซุงได้มีประกาศออกมาว่า ในขณะนี้ได้มีการผลิตจอโทรศัพท์แบบ UFB ให้กับ Nokia และ Motorola ด้วย หลาย ๆ ฝ่ายจึงกำลังจับตามองกันอยู่ถึงอนาคตของ UFB บนโทรศัพท์ที่ไม่ใช่ของซัมซุงว่าจะเป็นอย่างไร

ตัวอย่างของโทรศัพท์ที่ใช้จอ UFB: Samsung S200, S300, T200

เท่งทึง · หัวข้อ : วันที่โพสท์ : 29 Jan 2004 15:13

5. TFD (Thin Film Diode)
หน้าจอแบบ TFD เป็นพัฒนาการของหน้าจอแบบ STN และ TFT ซึ่งให้การแสดงผลที่คมชัดเทียบเท่ากับจอ TFT มีการประมวลข้อมูลที่สูงกว่า แต่ใช้พลังงานเทียบเท่ากับหน้าจอแบบ STN ซึ่งทำให้การชาร์จ/เปลี่ยนแบตเตอรี่น้อยตามไปด้วย สามารถแสดงผลได้ 65,000 สี

ตัวอย่างของโทรศัพท์ที่ใช้จอ TFD: Samsung V200

เท่งทึง · หัวข้อ : วันที่โพสท์ : 29 Jan 2004 15:15

และสุดท้ายคับ

6. OLED (Organic Light-Emitting Diode)
นอกเหนือจากหน้าจอแบบ UFB แล้ว หน้าจอแบบ OLED ก็เป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่น่าติดตาม เพราะว่าจอแบบ OLED นี้จะไม่เหมือนกับจอทั่ว ๆ ไปที่มีอยู่ เนื่องจากในแต่ละส่วนประกอบของ OLED นี้จะสามารถส่องแสงได้ด้วยตัวของมันเอง โดยที่ไม่ต้องอาศัยไฟ back light เข้าช่วย ซ้ำยังสามารถประมวลผลข้อมูลได้เร็ว และใช้พลังงานในระดับต่ำ หน้าจอ OLED นี้ถูกจับตามองว่าอาจจะเป็นเทคโนโลยีขั้นต่อไปของหน้าจอโทรศัพท์มือถือที่จะพบเห็นได้ทั่วไปในอนาคต หน้าจอแบบ OLED ยังแบ่งย่อยได้อีกหลายประเภท แต่จอ OLED ที่ได้มีการผลิตขึ้นมาแล้วจะมีอายุการใช้งานที่จำกัด อยู่ที่ประมาณ 10,000 ชั่วโมงเท่านั้น

จอ OLED สามารถแสดงสีได้ 1, 4 และ 256 สี ตัวอย่างของโทรศัพท์ที่ใช้จอ OLED: Motorola V600, Samsung i500