Community แห่งนี้จะใช้งานได้ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2566
 
สยามโฟน ดอท คอม : ชุมชนผู้ใช้มือถือ
 อั๊ยยะ!! โฉมหน้าเครื่องปริ้นตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ทึ่งมาก
 
หน้าแรกคอมมิวนิตี้ » SP Club - ห้องนั่งเล่น :)
ตอบ: 0 / เข้าชม: 1566
ตั้งกระทู้ใหม่ ตอบหัวข้อนี้
Translate this topic to English แสดงความเห็นเฉพาะสมาชิก ทวีตไปบนทวิตเตอร์ แชร์หน้านี้ไปบนเฟสบุคดูกระทู้ก่อนหน้า :: ดูกระทู้ถัดไป
Author
Message
beebirdbird
Cool Member
Cool Member
Year's Star



สมัครเมื่อ: 27 Apr 2014
จังหวัด: กรุงเทพฯ
รายละเอียดสมาชิก - View user's profile
หัวข้อ : อั๊ยยะ!! โฉมหน้าเครื่องปริ้นตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ทึ่งมาก
วันที่โพสท์ : 23 Aug 2014 18:56  
ตอบโดยอ้างถึง  

เห็นแล้วแอบทึ่ง ว่าเครื่องปริ้น ที่เราใช้ปริ้นรายงานกัน หรือถ้าเรียกทางการหน่อยว่า เครื่องพิมพ์ ตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน มีวิวัฒนาการและฟังก์ชันการใช้งานที่พัฒนาไกลมาไกลเลยนะ มีอะไรบ้าง มาดูกัน


1. เครื่องพิมพ์ดอตแมทริกซ์ (Dotmatrix Printer)



เป็นเครื่องแบบหัวเข็ม (pin) ใช้หลักการสร้างจุดลงบนกระดาษ คล้ายการทำงานของเครื่องพิมพ์ดีด ความคมชัดของข้อมูลที่พิมพ์ จะขึ้นอยู่กับจำนวนของหัวเข็ม ยิ่งหัวเข็มมากก็ยิ่งพิมพ์งานได้ละเอียดขึ้น ซึ่งหมึกพิมพ์ส่วนใหญ่จะมีอยู่ 2 แบบ คือ แบบ 24 และ 32 หัวเข็ม สามารถรองรองรับงานพิมพ์ความละเอียดสูงสุดที่ 360X360 จุดต่อตารางนิ้ว ข้อดีของหมึกประเภทนี้ คือ ช่วยประหยัดหมึกมากกว่าหมึกแบบตลับ แต่โดยส่วนใหญ่จะเป็นหัวพิมพ์แบบสีเดียว ใช้พิมพ์ตัวอักษรเป็นหลัก และกระดาษที่ใช้พิมพ์จะเป็นแบบยาว เหมาะสำหรับงานที่พิมพ์แบบฟอร์มที่ต้องการซ้อนแผ่นก๊อปปี้ หลาย ๆ ชั้น ตามสำนักงาน


2. เครื่องพิมพ์พล็อตเตอร์ (plotter)



พล็อตเตอร์ เป็นเครื่องพิมพ์ชนิดที่ใช้ปากกาในการเขียนข้อมูลต่างๆ ลงบนกระดาษที่ทำมาเฉพาะงานเหมาะสำหรับงานเกี่ยวกับการเขียนแบบทางวิศวกรรม และงานตกแต่งภายใน ใช้สำหรับวิศวกรรมและสถาปนิก พล็อตเตอร์ทำงานโดยใช้วิธีเลื่อนกระดาษ โดยสามารถใช้ปากกาได้ 6-8 สี ความเร็วในการทำงานของ พล็อตเตอร์มีหน่วยวัดเป็นนิ้วต่อวินาที (Inches Per Second : IPS) ซึ่งหมายถึงจำนวนนิ้วที่พล็อตเตอร์สามารถ เลื่อนปากกาไปบนกระดาษ


3. เครื่องพิมพ์แบบอิ้งก์เจ็ท (Ink-Jet Printer)



ถือเป็นเครื่องปริ้นที่ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ วิธีการทำงานของอิงก์เจ็ทจะเป็นการพ่นหมึกหยดเล็ก ๆ ไปที่กระดาษ หยดหมึกจะมีขนาดเล็กมาก แต่ละจุดจะอยู่ในตำแหน่งที่เมื่อประกอบกันแล้วจะเป็นตัวอักษร หรือรูปภาพตามความต้องการ สามารถพิมพ์ตัวอักษรที่มีรูปแบบ และขนาดที่แตกต่างกันมากๆ ได้ เครื่องปริ้นบางรุ่นสามารถรองรับกระดาษที่ขนาดมากกว่า A4 ได้ ซึ่งในปัจจุบันทางผู้ผลิตก็พยายามพัฒนาเครื่องพิมพ์ให้รองรับการใช้งานใน ระบบบ Input ข้อมูลเข้าเครื่องพิมพ์ได้สะดวกมากขึ้่นด้วยการใส่ USB เข้ามาเพิ่มความสะดวกในการพิมพ์ เพิ่มเครื่อง Scan เข้าไปในตัวเครื่อง เพื่อให้รองรับการพิมพ์เอกสารและลูกเล่นอื่น ๆ ที่รองรับการพิมพ์ที่มากขึ้น บางรุ่นสามารถใส่ USBรองรับการใช้งานในระบบ Input และยังมีลูกเล่นอื่นๆ อีกมายที่ผู้ผลิตพัฒนาออกมาเรื่อยๆ ปัจจุบันเครื่องปริ้นอิ้งก์เจ็ทจึงค่อนข้างเป็นที่ค่อนข้างได้รับความนิยมมาก เพราะราคาเครื่องไม่แพง แต่จะมีข้อเสียที่อย่างหนึ่งคือ หมึกไม่สามารถกันน้ำได้ และตลับหมึกมีราคาค่อนข้างสูง หลายคนจึงใช้วิธีติดแท็งก์แทนซื้อตลับหมึกใหม่ แต่จะทำให้เครื่องปริ้นหมดประกันไป


4. เครื่องพิมพ์เลเซอร์ (Laser Printer)



เครื่องพิมพ์แบบเลเซอร์ เป็นเครื่องพิมพ์ที่ใช้เทคโนโลยีเดียวกับเครื่องถ่ายเอกสาร คือยิงเลเซอร์แล้วใช้ความร้อนในการรีดหมึกออกมา งานพิมพ์ที่ออกมาจะมีคุณภาพสูงมาก

โดยในปัจจุบันได้มีการพัฒนาระบบการพิมพ์ให้รองรับทั้งการพิมพ์แบบเลเซอร์สี และเลเซอร์ขาวดำ โดยเราเรียกกันว่า เครื่องพิมพ์เลเซอร์พรินเตอร์ขาว-ดำ (Monochrome Laser Printer) และเครื่องเครื่องพิมพ์เลเซอร์ (Color Laser Printer) ซึ่งคุณภาพในการพิมพ์ถือว่าดีกว่าเครื่องปริ้นแบบอื่นๆ มาก เพราะสามารถพิมพ์ไวและพิมพ์เงียบ อีกทั้งหมึกที่รีดด้วยความร้อนจากผงหมึกที่ให้ความละเอียดได้ดีกว่า Inkjet และยังสามารถกันน้ำได้ดีนะระดับหนึ่ง ทำให้เครื่องพิมพ์ประเภทนี้มีราคาที่สูง บวกกับการพัฒนาของผู้ผลิตเครื่องพิมพ์เลเซอร์ที่เอาเทคโนโลยีมัลติ ฟังก์ชัน(Multifunction Printer) เข้ามาใช้ เพื่อรองรับการใช้งานที่สะดวกขึ้นของผู้ใช้ทำให้การทำงานของผู้ใช้งานทำได้ สะดวกขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการสั่งพิมพ์ผ่านระบบไร้สาย รองรับการพิมพ์ผ่านระบบเครือข่าย ส่ง Fax และทำการ Scan หรือถ่ายเอกสาร และยังออกแบบให้เครื่องมีขนาดเล็กลง จึงเป็นที่นิยมใช้ตามสำนักงานขนาดเล็กและตามบ้านกันมากขึ้น


5. เครื่องพิมพ์หมึกเจล (Gelsprinter)



Gelsprinter ถือเป็นเทคโนโลยีปริ้นเตอร์ใหม่ล่าสุดในยุคปัจจุบันที่ Ricoh บริษัทผู้ผลิตเครื่องใช้สำนักงานอย่างเครื่องถ่ายเอกสารและกล้องถ่ายรูป พัฒนาขึ้นมา

เทคโนโลยี Gelsprinter จะให้คุณภาพงานพิมพ์ที่ดีกว่าปริ้นเตอร์แบบอื่นๆ มาก เพราะหมึกพิมพ์ที่เป็นเจล มีคุณสมบัติกันน้ำได้ พิมพ์ภาพแล้วคมชัด สีไม่เพี้ยน ไม่เลอะง่ายเหมือนการพิมพ์ด้วยหมึกน้ำแบบอิ้งค์เจ็ท และไม่หลุดง่ายเหมือนหมึกผลแบบเครื่องเลเซอร์ทั่วไป อีกทั้งยังเป็นหมึกแบบ eco คือมีมลภาวะต่ำกว่าหมึกชนิดอื่นๆ ปลอดภัยต่อสุขภาพและไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ยังมี Gelsprinter ที่พัฒนาให้ใช้แบตเตอรี่แทนการใช้ปลั๊กเสียบ สามารถยกขึ้นรถไปพิมพ์งานนอกสถานที่ได้สะดวกสบายอีกด้วย แต่ตอนนี้ราคาเครื่องพิมพ์หมึกเจลยังค่อนข้างสูงมาก และมีผู้ผลิตเพียงรายเดียวคือ Ricoh เท่านั้นที่ผลิตอยู่ตอนนี้

อ้างอิงจาก
https://sites.google.com/site/suraphongit/home/-a
http://hitech.sanook.com/944273/
แสดงผู้ตอบย้อนหลัง:   
หน้าแรกคอมมิวนิตี้ » SP Club - ห้องนั่งเล่น :)
ตั้งกระทู้ใหม่  ตอบหัวข้อนี้
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1   

 
ไปยังหัวข้อ: