เรื่องของควันหลงการประมูล 4 จีบนคลื่นความถี่ 900 เมกกะเฮิรตซ์ ที่กำลังทำเอาใครต่อใครหายใจไม่ทั่วท้อง โดยเฉพาะในส่วนของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) หลังจากที่บริษัท แจส โมบาย บรอดแบนด์ เบี้ยวจ่ายเงินค่าประมูล 75,654 ล้านบาท

ทำให้ กสทช.ต้องพลิกตำรารับมือกันจ้าละหวั่น โดยล่าสุดไม่เพียงจะป่าวประกาศรับหลักประกันการประมูล พร้อมตั้งคณะกรรมการไล่เบี้ยความผิดของแจสโมบายแล้ว ยังตั้งแท่นที่จะนำเอาคลื่นความถี่ดังกล่าวกลับมาประมูลใหม่ ในขณะที่บริษัทสื่อสารเอกชนนั้นดูเหมือนจะมั่นใจว่า กสทช.จะลงโทษบริษัทได้แค่การรับหลักประกันการประมูล 644 ล้านบาทเท่านั้น

กลายเป็นบทพิสูจน์น้ำยา กสทช.ขึ้นมาทันทีว่าจะสามารถไล่เบี้ยเอาผิดกับบริษัทสื่อสารยักษ์ ?แบดบอย? ที่สร้างความเสียหายให้กับวงการโทรคมนาคมของประเทศได้หรือไม่ หรือจะเป็นได้แค่ ?เสือกระดาษ?!!!

เรื่องของ ?เด็กดื้อ? ที่ต้องพูดถึงอีกเรื่อง ก็คือ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) หลังจากหมดยุค ?กินบุญเก่า? ต้องหันมาประกอบธุรกิจแข่งกับบริษัทสื่อสารใต้ชายคา ในฐานะ Operator เต็มตัวนั้น นัยว่าที่ผ่านมากิจการยังคงลุ่มๆ ดอนๆ จ่อจะชักหน้าไม่ถึงหลัง จนถูกใบสั่งรัฐบาลให้ต้องจัดทำแผนฟื้นฟูกิจการขนานใหญ่เมื่อ 2 ปีก่อน

แต่กว่า 2 ปีเข้าไปแล้วนับแต่ทีโอทีเดินแผนปรับโครงสร้างองค์กร จัดทัพองค์กรขนานใหญ่เพื่อความอยู่รอด วันนี้ทั้งบอร์ดและฝ่ายบริหารทีโอทีก็ยังคงสาละวนอยู่กับการปรับโครงสร้างที่ยังไม่สะเด็ดน้ำ!

วันวานรื้อฝาบ้านไปมุงหลังคา รื้อหน้าต่างไปทำหน้าต่าง วันต่อมารื้อกองพัสดุเอาไปทำเป็นตู้โชว์ รื้อฝากั้นหองออกไปทำเป็นหลังคาอีกแล้ว ล่าสุดนี่ก็นัยว่ากำลังเตรียมรื้อหลังคาจะเอาไปทำเป็นฝากั้นห้องส้วมอีก เอากะพ่อซิ! เล่นเอาพนักงาน-ฝ่ายบริหารไม่เป็นอันได้ทำมาหากินอะไร วันๆ ได้แต่เล่นเก้าอี้ดนตรีโยกคลอนกันให้หัวหมุน!

นัยว่า เบื้องหน้าเบื้องหลังการปรับโครงสร้างองค์กรที่มันไม่สะเด็ดน้ำนั้น ก็เพราะผลพวงจากการจัดทัพปรับโครงสร้างองค์กรครั้งก่อนที่ให้แยกหน่วยธุรกิจ ตั้งหน่วยธุรกิจกันใหม่ให้ยุ่งขิง ก่อนจะมีการแขวนผู้บริหารเก่า แต่งตั้งผู้บริหารระดับรอง และผู้ช่วยในองค์กรกันเป็นกุรุด ทำเอาผู้บริหารที่ถูกสั่นคลอนบางกลุ่มที่ถูกสั่นคลอนต้องวิ่งวุ่นเข้าหาอำนาจ จนสามารถสร้างผลงานเข้าตากรรมการ เลยกลายเป็นที่มาของรายการปรับโครงสร้างกันใหม่อีกระลอก!

เรียกได้ว่า ครั้งก่อน แตกพาร์หน่วยงานภายในกันให้ยุ่งขิง มาคราวนี้จัดทัพกันใหม่ทั้งยุบเลิกและควบรวมงานกันใหม่กันให้วุ่นอีกระลอก ที่เคยจับแยกก็ให้ยุบและควบรวม เอาชนิดที่เรียกว่าจับโทรศัพท์ภูมิภาค-กับโทรศัพท์นครหลวงมาควบรวมอยู่ภายใต้ผู้บริหารคนเดียวกันได้ก็แล้วกัน!

อย่างไรก็ตามสิ่งที่บอร์ดและฝ่ายบริหารทีโอที ไม่เคยให้ความกระจ่างแก่พนักงาน และสังคม กว่า 2 ปีที่ทีโอทีตีฆ้องปรับโครงสร้างใหม่จัดทัพธุรกิจใหม่ที่นัยว่าจะเป็นทางรอดให้แก่องค์กรตามแผนฟื้นฟูที่ส่งให้ ?ซูเปอร์บอร์ด? ตั้งแต่ปีมะโว้นั้น วันนี้ได้ทำสถานะองค์กรทีโอทีเป็นอย่างไร ผลประกอบการ การดำเนินธุรกิจพอจะเห็นหน้าเห็นหลังกันบ้างไหม

ความคืบหน้าของการปรับรื้อโครงสร้าง รื้อฝาบ้านทำหลังคา หรือรื้อหลังคามาทำฝากันห้องในครั้งก่อน หรือที่กำลังจะรื้อหลังคาออกไปทำผนังส้วมอะไรอีกนั้น ได้ทำให้องค์กรทีโอทีมีรายได้เป็นกำเป็นกำพอจะหล่อเลี้ยงองค์กรให้ไปตลอดรอดฝั่งได้หรือไม่ รายได้พิเศษที่ฝ่ายบริหารในอดีตกรุยทางไว้ให้อย่างเรื่องที่ไปผูกเสี่ยวเป็นพันธมิตรธุรกิจกับเอไอเอส ที่คาดว่าจะทำให้องค์กรมีรายได้จากการให้เช่าเสาโทรคมนาคมปีละนับ 10,000 ล้านนั้น คืบหน้าไปถึงไหนอย่างไร

หรือวันๆ มัวแต่รื้อโครงสร้าง-รื้อฝาบ้านจนไม่มีเวลาไปคิดอ่านทำอย่างอื่น!

อย่าลืมว่าความอยู่รอดขององค์กรทีโอทีนั้นเกี่ยวเนื่องกับพนักงานเรือนหมื่น ไหนจะครอบครัวลูกหลานพนักงานอีกไม่รู้กี่หมื่นคนอีก จึงไม่ใช่เรื่องที่ฝ่ายบริหารจะเอาองค์กรมาลองผิด-ลองถูก หรือเป็นหนูทดลองยาให้กับใครต่อใคร การจะปรับรื้อโครงสร้างกันทั้งทีมันต้องมีการวางแผนเพื่ออนาคตกันเป็น 5 ปี 10 ปี ไม่ใช่วันนี้รื้อฝาบ้านทำหลังคา พรุ่งนี้เอาใหม่รื้อหลังคาไปทำฝาบ้าน มะรืนไม่พอใจสั่งรื้อใหม่จะเอาไปทำเป็นฟื้นเป็นรั้ว เอาให้มั่วไปหมดอย่างที่เห็น!

เพราะหากแผนฟื้นฟูล้มเหลวไม่เป็นโล้เป็นพาย รัฐบาลโดยเฉพาะท่านประธานซูเปอร์บอร์ดจะได้ไล่เบี้ยคนรับผิดชอบได้ถูก จริงไม่จริงท่านประธานสุรพงษ์ สุวรรณอัตถ์ และ ?ซีอีโอมนต์ชัย หนูสง? ที่เคารพ!!!